แหล่งเงินทุน ทางรอดธุรกิจในยุคเศรษฐกิจไม่แน่นอน
- assist money
- 10 มิ.ย.
- ยาว 1 นาที

ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจเข้มข้น เศรษฐกิจมีความผันผวน และเทคโนโลยีก้าวไกล ผู้ประกอบการจำนวนไม่น้อยต้องเผชิญกับความท้าทายด้านสภาพคล่อง “แหล่งเงินทุน” จึงกลายเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถเดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคง ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มต้นกิจการ การขยายธุรกิจ หรือแม้แต่การรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน
แหล่งเงินทุนคืออะไร?
"แหล่งเงินทุน" (Funding Source) หมายถึง แหล่งที่มาของเงินหรือทรัพยากรทางการเงินที่ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงได้เพื่อนำมาใช้ในกิจกรรมทางธุรกิจ เช่น การซื้อวัตถุดิบ ขยายสาขา จ้างพนักงาน ลงทุนระบบ หรือหมุนเวียนกระแสเงินสด แหล่งเงินทุนมีได้หลายรูปแบบ ทั้งจากภายในกิจการเอง และจากภายนอก ซึ่งแต่ละรูปแบบมีข้อดี ข้อเสีย และความเหมาะสมที่ต่างกัน
ประเภทของแหล่งเงินทุนที่ธุรกิจสามารถใช้ได้
1. แหล่งเงินทุนภายใน (Internal Funding)
เป็นเงินทุนที่ได้จากกิจกรรมภายในของบริษัท โดยไม่ต้องพึ่งพาภายนอก ได้แก่:
กำไรสะสม: นำผลกำไรของธุรกิจกลับมาลงทุนใหม่
การลดต้นทุน: ใช้วิธีบริหารจัดการเพื่อลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มกระแสเงินสด
การบริหารเงินสดอย่างมีประสิทธิภาพ: การใช้ระบบบัญชีที่ดีช่วยควบคุมรายรับรายจ่าย
ข้อดี: ไม่มีหนี้สิน ไม่ต้องเสียดอกเบี้ยข้อเสีย: มักไม่เพียงพอสำหรับการขยายธุรกิจขนาดใหญ่
2. แหล่งเงินทุนภายนอก (External Funding)
เงินทุนที่ได้รับจากแหล่งภายนอกองค์กร แบ่งออกเป็นหลายรูปแบบ ได้แก่:
2.1 สินเชื่อจากสถาบันการเงิน
ธนาคารพาณิชย์: ให้บริการสินเชื่อธุรกิจทั้งระยะสั้นและระยะยาว
บริษัทไฟแนนซ์ หรือ Non-Bank: เป็นทางเลือกที่อนุมัติง่ายกว่า ไม่เช็คเครดิตบูโรในบางกรณี
2.2 เงินทุนจากนักลงทุน
Angel Investor: นักลงทุนบุคคลที่สนับสนุนธุรกิจใหม่
Venture Capital (VC): กองทุนที่ลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพที่มีโอกาสเติบโตสูง
2.3 แหล่งเงินทุนทางเลือก
Crowdfunding: การระดมทุนจากประชาชนผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์
Peer-to-Peer Lending (P2P): การกู้ยืมผ่านระบบออนไลน์โดยตรงระหว่างผู้ให้กู้กับผู้กู้
ข้อดี: สามารถระดมทุนได้มาก เหมาะกับการเติบโตข้อเสีย: อาจมีต้นทุนดอกเบี้ยสูง หรือเสียสัดส่วนความเป็นเจ้าของ
ตัวอย่างสถานการณ์ที่แหล่งเงินทุนมีความสำคัญ
กรณีที่ 1: ธุรกิจเริ่มต้นใหม่
ผู้ประกอบการที่เพิ่งเริ่มต้นมักยังไม่มีรายได้หรือสินทรัพย์ การเข้าถึงแหล่งเงินทุนภายนอก เช่น Non-Bank หรือ Crowdfunding จึงมีบทบาทสำคัญในการผลักดันไอเดียให้เกิดขึ้นจริง
กรณีที่ 2: การขยายกิจการ
เมื่อธุรกิจต้องการเพิ่มสาขา ซื้อเครื่องจักร หรือเปิดตลาดใหม่ การกู้สินเชื่อระยะยาวจากธนาคาร หรือการขายหุ้นบางส่วนให้นักลงทุนจะช่วยเสริมศักยภาพ
กรณีที่ 3: สภาพคล่องขาดช่วง
หากเกิดวิกฤติชั่วคราว เช่น ลูกค้าชำระล่าช้า แต่ยังมีค่าใช้จ่ายรายวัน OD (วงเงินเบิกเกินบัญชี) หรือสินเชื่อหมุนเวียนจะช่วยคงกระแสเงินสดให้ไหลเวียนได้
วิธีเลือกแหล่งเงินทุนที่เหมาะกับธุรกิจ
พิจารณาวัตถุประสงค์: ต้องการเงินทุนไปทำอะไร? เช่น ขยายธุรกิจ หรือแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
วิเคราะห์ความสามารถในการชำระหนี้: อย่ากู้เกินตัวจนส่งผลต่อสภาพคล่องในระยะยาว
เปรียบเทียบข้อเสนอจากหลายแหล่ง: อัตราดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม ระยะเวลาอนุมัติ
เลือกแหล่งเงินทุนที่ไม่กระทบการควบคุมธุรกิจ: หากไม่ต้องการสูญเสียอำนาจควบคุม อาจหลีกเลี่ยงการขายหุ้นหรือมีพาร์ตเนอร์
แนวโน้มของแหล่งเงินทุนในปี 2568
Fintech และสินเชื่อออนไลน์เติบโตเร็ว: การยื่นกู้ผ่านแอปหรือเว็บไซต์ได้รับความนิยมมากขึ้น เน้นความรวดเร็ว ไม่ใช้เอกสารเยอะ
ธุรกิจ SME เข้าถึงทุนง่ายขึ้น: หลายโครงการภาครัฐและภาคเอกชนส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของ SMEs
สินเชื่อไม่เช็คบูโรมาแรง: สำหรับเจ้าของกิจการที่มีประวัติเครดิตไม่สมบูรณ์ แต่ยังมีความสามารถในการดำเนินธุรกิจ
สรุป
"แหล่งเงินทุน" คือเส้นเลือดหล่อเลี้ยงธุรกิจ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ประกอบการรายเล็กหรือเจ้าของกิจการขนาดใหญ่ การเลือกแหล่งเงินทุนที่เหมาะสมตามสถานการณ์และเป้าหมาย จะช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว โดยเฉพาะในปี 2568 ที่ระบบการเข้าถึงแหล่งทุนพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ใครเข้าใจและวางแผนได้ก่อน ย่อมได้เปรียบในโลกธุรกิจที่ไม่หยุดนิ่ง



Comments